
อัมสเตอร์ดัม ประวัติ มีความเป็นมาอย่างไร?
อัมสเตอร์ดัม เป็นชื่อเมืองหลวงสำคัญ เมืองหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเติล จังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ มีจำนวนประชากรถึง 872,680 คน ชื่อของอัมสเตอร์ดัมนั้น มาจากชื่อที่ว่า อัมสเติลเรอดัมเมอ หมายความว่า เขื่อนที่ติดกับแม่น้ำสเติล โดยเมืองนี้มีประวัติศาสตร์ ดั่งเดิมในช่วงคริสศตวรรษที่ 12 เดิมทีเป็นหมู่บ้านของชาวประมง
ก่อนที่จะกลายเป็นศูนย์กลาง ทางการค้าขนาดใหญ่จากทั่วโลก ทั้งการเดินเรือ และการเงินสำหรับ เป็นทุนในการสำรวจพื้นที่ แหล่งทรัพยากรอีกด้วย ในช่วงคริสศตวรรษที่ 17 เป็นช่วงยุคทองของประเทศเนเธอร์แลนด์
เป็นจุดเริ่มต้นคลอง ระบบชลประทาน ซึ่งปัจจุบันคลองดั่งกล่าวยัง ถูกใช้จนมาถึงปัจจุบันนี้ที่ได้รับ การบันทึกให้เป็นมรดกของโลก โดยองค์กรยูเนสโก้อีกด้วย ปัจจุบันอัมสเตอร์ดัมเป็นศูนย์กลาง
ทางการเงินและวัฒนธรรมของเนเธอร์แลนด์ ด้วยความยิ่งใหญ่ในอดีต ที่ชาวดัตส์ซึ่งเป็นอีก ชื่อหนึ่งของคนเนเธอร์แลนด์ ได้มีการสำรวจเส้นทางการค้า และเข้ามามีอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ของเราอีกด้วย จนถูกยกให้เป็น จักรวรรดิดัตส์ผู้ซึ่งมีอิทธิพล ในแถบประเทศศรีลังกา อินโดนิเซีย และอินเดีย นับว่าเป็นผู้เริ่มการผูกขาด ทางการค้าให้กับยุโรป สินค้าต่างๆที่มาจากเอเชียนั้น
จักรวรรดิดัตส์ได้ขายแต่เพียงผู้เดียว อีกทั่งยังเป็นผู้ริเริ่ม ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ขายหุ้นแห่งแรกของโลก ในปีค.ศ. 1602 ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของ อัมสเตอร์ดัม ที่เป็นเมืองส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ
ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้มีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวชมสถาปัตยกรรมยุโรป ที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่ร่มเย็นอีกด้วย
อัมสเตอร์ดัม มี ความยิ่งใหญ่ทางการค้าได้อย่างไร?
ด้วยเมืองอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำอัมสเติล ทำให้เส้นทางเรือการค้าต่าง หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก สินค้าต่างๆรวมถึงวัฒนธรรม ที่ได้มาจากทั่วโลก ทำให้ชาวดัตส์นั้นมี ความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก อีกทั่งยังมีการปกครองดินแดนโพ้นทะเล ประเทศในแถบอินโดนีเซียอีกด้วย สินค้าจำพวกเครื่องเทศต่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่ต้องการและมีราคาแพง
เป็นอย่างมากในยุโรป ทองคำจำนวนมากจากการค้าขาย ที่มาจากทางเรือมักเป็นเป้าหมายของโจรสลัดอยู่เสมอ จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า ชาวดัตส์มีความมั่งคั่งมากแค่ไหน ทำให้สถาปัตยกรรมภายในเมือง
รวมถึงศิลปะวิทยาการต่างๆ นั้นเป็นส่วนช่วยสร้าง ให้เมืองนี้มีความเจริญและเทียบเท่า มหาอำนาจยุโรปประเทศต่างๆได้ จนกระทั่งต่อมาจากจุดที่สูงสุด ก็มาถึงการเปลี่ยนแปลง หลังจากเนเธอร์แลนด์ได้ตกเป็น
เมืองขึ้นของฝรั่งเศสภายใต้การนำของ จักรพรรดิ์นโปเลียน โบนาปาร์ท ความรุ่งเรืองนั้นสู้ในอดีตไม่ได้เลย เพราะต้องคอยส่งบรรณาการให้กับ ประเทศแม่ที่ปกครองอย่างฝรั่งเศสทุกปี
จนกระทั่งฝรั่งเศสได้เสื่อมอำนาจลงไป ดินแดนในแถบนี้จึงรวมตัวกัน จัดตั้งสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ขึ้นในปีค.ศ.1815 จากนั้นก็กลับมามั่งคั่งอีกครั้ง มีการพัฒนาที่รวดเร็วจนกระทั่งในเมืองเริ่มที่จะมี
สถานนีรภไฟ พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงการเริ่มใช้ไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชาวดัตส์เองถึงแม้จะมีจำนวน ประชากรที่น้อย แต่กลับช่วยกันสร้างและผลักดัน ประเทศตัวเองให้ยิ่งใหญ่ ทำให้เราเห็นภาพสะท้อน ความเก่งของพวกเขา
อัมสเตอร์ดัมสถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?
เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ ดูสวยงามและตระการตาเป็นอย่างมาก สถานที่ต่างๆนั้นมีอายุที่เก่าแก่ บอกเล่าเรื่องราวเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละยุคสมัยของเนเธอร์แลนด์ แผนผังของเมืองรวมทั้งธรรมชาตินั้น ถูกสร้างให้ดูกลมกลืนกัน ทำให้ทุกที่ที่เดินทางนั้น ดูร่มลื่นไปซะทุกที่ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ ของเมืองนี้เลยนั้นก็คือ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม (Rjiksmusem) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญของเมืองนี้เป็นอย่างมาก และมีขนาดใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์อีกด้วย สถาปัตยกรรมของอาคารนั้น
เป็นแบบผสมผสานระหว่างโกธิคและเรเนซองส์ ภายในอาคารบอกเล่าถึงศิลปะ เรื่องราวในช่วงยุคทองของเมืองนี้ ที่บอกเล่าประวัติผ่านการจัดแสดง วัตถุต่างๆที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างยาวนาน
สถานที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ที่สร้างชื่อให้กับเมืองนี้เลยก็คือ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) ที่นี้นับว่าเป็นที่รวบรวมผลงานจัดแสดงของ แวนโก๊ะผู้ซึ่งเป็นศิลปินที่ สร้างชื่อเสียงไปทั่วทั้งโลก
ไม่ว่าผลงานต่างๆ รวมถึงประวัติส่วนตัวและผลงานศิลปินคนอื่นอย่าง ปอล โกแก๊ง ( Paul Gauguin) และ โกลด มอแน (Claude Monet) อีกด้วย หลังจากที่เที่ยวชมงานศิลปะกันแล้ว
ต้องมาเดินหาของกินที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี้อย่าง ตลาดอัลแบร์ เคิพ (Albert Cuyp Market) ตลาดของที่นี้ถือว่า เป็นสตรัทมาร์ทเก็ตชื่อดัง ของเนเธอร์แลนด์ ที่เราจะได้เห็นถึงอาหารและขนมต่างๆ
ที่ขายกันอยู่ตลอดริมทาง เหมือนกับตลาดคนเดินที่บ้านเราอย่างงั้น ที่นี้ยังมีทั้งของสด ผัก ผลไม้ เสื้อผ้า สิ่งของประจำท้องถิ่น มาขายกันอยู่ตลอดสองข้างทาง ทำให้ดูตัดสินใจไม่ถูกเลยซะร้าน
หลังจากที่กินอิ่มแล้ว ต้องมานั่งพักที่ วอนเดลปาร์ค (Vondelpark) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ของเนเธอร์แลนด์ สถานที่นี้เป็นสถานที่ลมเย็น พักผ่อนย่อนใจไปกับทะเลสาบ
คุณยังสามารถซื้อแซนวิชมานั่งปิกนิกกันได้ บรรยากาศของที่นี้ดูร่มเย็นสงบ เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย เราไปต่อกันนอกเมืองซะหน่อย สถานที่นี้เหมือนฝัน เพราะที่นี้มีทุ่งดอกไม้อันสวยงาม นั้นคือ
หมู่บ้านกังหันลมโบราณ ซานเซอ สคานส์ (Zaanse Schans) หมู่บ้านแห่งนี้ชวนให้นึกถึง ชนบทในยุโรปที่มี ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และกังหันลมขนาดใหญ่ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี้อีกด้วย เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก สถานที่ท่องเที่ยวของอัมสเตอร์ดัม ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ การเดินทางท่องเที่ยวเมืองนี้ นับว่าคุ้มค่ากับการหาประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างแน่นอน
อัมสเตอร์ดัมเป็นเมือง เสรีกัญชาจริงๆหรอ?
การใช้กัญชาของที่นี้ถือว่า เป็นเรื่องปกติเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสันทนาการ หรือใช้ในทางการแพทย์ นั้นถือว่าเป็นโลกเสรีอย่างยิ่ง นับว่าเป็นเมืองในไม่กี่เมืองในโลกนี้ ที่มีการปลดล็อคกัญชา แต่ก็ใช่ว่าเสรีนี้จะไปทำการรบกวนคนอื่น ตลอดทั่วทั้งถนนนั้น จะไม่สามารถใช้กัญชาในทางสนทนาการได้ แต่สามารถใช้ในที่พักส่วนบุคคลแทน
สินค้าที่เกี่ยวกับกัญชาเอง ก็มีความหลากหลาย ช็อปของที่นี้มีจำหน่ายกันหลายร้าน เหมือนกับว่าเปิดเป็นร้านขายยา แถวบ้านเรากันเต็มไปหมด ความหลากหลายของสินค้า ที่เกี่ยวกับกัญชานั้นยิ่ง
เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง ของเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการได้เห็นถึง ความสำคัญของพืชชนิดนี้ ที่มีประโยชน์มากมาย จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ ผลิตภัณฑ์บ้างชนิดนั้น
มาจากประเทศไทยเองก็มี อย่างกัญชาสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อของไทยนั้น เป็นสิ่งที่นิยมของชาวต่างชาติอย่างมาก เพราะมีสรรพคุณประโยชน์มากมาย จากสายพันธุ์ของไทย สินค้าเหล่านี้จึงอยู่กระจาย
ไปทั่วทั้งโลกนับว่าเป็นอีก ชื่อเสียงหนึ่งที่ประเทศไทยนั้น ไม่ค่อยยอมรับกับสิ่งนี้นัก การขายกัญชาหรือคาเฟ่กัญชานั้น ต้องมีใบอนุญาติจากทางรัฐ จะสังเกตได้จากสติกเกอร์ที่มีการ
บ่งบอกถึงกฎหมายของเมืองนี้ และยังมีกฎห้ามพกออกจากเมืองอีกด้วย ถึงแม้จะเสรีเองแต่ก็ยังมีการ ดูแลไม่ให้ไปกระทบสิทธิ์ผู้อื่นและป้องกัน ไม่ให้ผิดกฎหมายอีกด้วย
สรุปการไปท่องเที่ยวอัมสเตอร์ดัม เป็นอย่างไรบ้าง?
ความสวยงามทางด้าน สถาปัตยกรรมนั้นเป็นตัวบอกเล่าอดีต สิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น เสน่ห์ของเมืองนี้ชวนให้เรา ได้หลงใหลไปกับความงามที่เป็นธรรมชาติ เกิดขึ้นจากการที่ผลักดัน ประเทศตัวเองที่มีขนาดเล็ก ให้เท่าทันกับนานาประเทศ อื่นๆในยุโรป แต่กลับสร้างเมืองที่ดูยิ่งใหญ่ สมกับความรุ่งโรจน์ในอดีต
สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบ ของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมายังเมืองนี้ ถ้าเป็นคนชอบเที่ยวโลกกลางคืน ที่นี้เองก็มี ย่านโคมแดง
ที่เป็นย่านการขายบริการ โดยถูกกฎหมาย สถานบริการเหล่านี้มีเอกลักษณ์ ที่มักจะเปิดไฟหน้าร้านของตัวเอง เป็นสีแดงกันไปทั้งย่านนี้ การมาเดินเที่ยวย่านแห่งนี้ แนะนำไม่ควรถ่ายรูปหรือวิดีโอ
เพราะจะเป็นการเหมือนเราไม่ให้เกียรติ กับอาชีพของพวกเขา แสงไฟและความงามของสิ่งก่อสร้าง ในยามค่ำคืนนั้นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่มีหลายมุมที่เราอยากจะไป ทั้งย่านคึกคักหรือแบบเหงาๆ ก็มีอยู่ทั่วทั้งเมือง นับว่าเป็นเมืองที่สิ่งที่น่าสนใจ กับการมาท่องเที่ยวได้คุ้มค่า กับการได้เลือกมาเที่ยวยังเมืองแห่งนี้
จึงทำให้
มองว่า การมาเที่ยวยังเมืองอัมสเตอร์ดัม เป็นการที่ได้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตที่เมืองมีความหลากหลาย ทางวัฒนธรรมรวมถึงศิลปะ นับว่าเป็นจุดกำเนิดศิลปิน ระดับโลกอย่างแวนโก๊ะ
ที่ได้สร้างชื่อและดึงดูดความงาม ของเมืองแห่งนี้ผ่านภาพวาด ของศิลปืนระดับโลกท่านนี้ ต่างพานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางมาค้นหาความงามในสถานที่จริง ตามจากภาพวาดของแวนโก๊ะเอง หากใครที่ชื่นชอบเมืองแห่งความร่มรื่นและศิลปะ นับว่าไม่ควรพลาดมาท่องเที่ยวยัง เมืองอัมสเตอร์ดัมแห่งนี้